เนปาล ดินแดนในอ้อมกอดหิมาลัย 1 ใน 5 ประเทศที่เทือกเขาหิมาลัยพาดผ่าน ได้แก่ ปากีสถาน อินเดีย จีน ภูฏาน และเนปาล ประเทศที่รอให้คุณไปสัมผัสสักครั้ง ด้วยวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ศิลปะวัฒนธรรม รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย มีที่ไหนบ้างไปชมกันเลยครับ
01 | สยมภูวนาถ สวะยัมภูนาถ หรือวัดลิง (Swayambhunath)
กาฐมาณฑุ (Kathmandu)
เป็นเจดีย์ของชาวพุทธ (Buddhist Chaityas) ที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก กล่าวกันว่าน่าจะมีอายุถึง 2,000 ปีเลยทีเดียว สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้ามานะเทวะในปี พ.ศ. 936 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดคือ ส่วนตรงฐานของสถูปซึ่งมีดวงตาเห็นธรรมหรือ Wisdom Eyes ของพระพุทธเจ้าอยู่โดยรอบทั้ง 4 ด้าน ตั้งอยู่บนยอดเขาห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตกประมาณ 3 กิโลเมตร ตัวสถูปตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ สูงประมาณ 77 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลของหุบเขากาฐมาณฑุ จึงทำให้เห็นทิวทัศน์เหนือหุบเขาที่แสนงดงาม สถูปแห่งนี้เป็นสถูปที่เก่าแก่ที่สุดของเนปาล
02 | กาฐมาณฑุ ดูร์บาร์สแควร์ (Kathmandu Durbar Square)
กาฐมาณฑุ (Kathmandu)
จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์แห่งนี้ประกอบไปด้วยวัดและปราสาทที่เก่าแก่ ซึ่งแสดงภาพความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาล เนื่องจากเป็นสถานที่ราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ และยังมีสถานที่น่าสนใจที่ควรไปชมได้แก่ วัดตะเลชุ สร้างโดยกษัตริย์มเหนทรามัลละ (King Mahendra Malla) ในปี พ.ศ. 2092 และจัตุรัสแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี พ.ศ. 2522 อีกด้วย
03 | วัดกุมารี หรือกุมารีฆระ (Temple of Kumari or Kumari Ghar)
กาฐมาณฑุ (Kathmandu)
วัดกุมารีเป็นอาคารสูง 3 ชั้นมีบานหน้าต่างโดยรอบในแต่ละบานหน้าต่างแกะสลักเรื่องราวในศาสนาฮินดู ตามความเชื่อของชาวเนปาลองค์ราชกุมารีมีมายาวนานกว่า 2600 ปี โดยเด็กหญิงผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต้องมีลักษณะเป็นสมมุติเทพตามตำราจึงจะถือว่าเป็นตัวแทนแห่งศักติ ของเจ้าแม่มหากาลี ที่ลงมาจุติเพื่อปกป้องประเทศเนปาลให้มีความสงบร่มเย็น หากต้องการมาสักการะ กุมารี จะมีเทศกาลอินทรายาตรา (Indra Jatra) ซึ่งจะจัดช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน โดยมีขบวนแห่กุมาลี ไปตามถนนในเมืองกาฐมาณฑุ โดยมีการเล่นดนตรี ระบำตามความเชื่อศาสนาอย่างสวยงาม
04 | หมู่บ้านบันดิปูร์ (Bandipur)
คันดากิ (Gandaki)
หมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่ห่างจากกรุงกาฐมัณฑุ ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 143 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) “บันดิปูร์” (Bandipur) หมู่บ้านบันดิปูร์ หมู่บ้านศักดิ์สิทธิ์ของชาว ฮินดู หมู่บ้านท่องเที่ยวเล็กๆ แต่มากไปด้วยเสน่ห์ ของประเพณี วัฒนธรรม และวิถีความเป็นอยู่ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชันบันดิปูร์ แปลเป็นไทยง่ายๆก็คือเมืองบัณฑิต หรือเมืองของผู้รู้ หมู่บ้านบนยอดเขาท่ามกลางขุนเขาที่รายล้อม หมู่บ้านบันดิปูร์ ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,030 เมตร โดยบริเวณรอบๆหมู่บ้านนั้นโดดเด่นไปด้วยทัศนียภาพที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและม่านหมอก รวมไปถึงทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาหิมาลัยที่สามารถมองเห็นจากตัวหมู่บ้านได้อย่างชัดเจน
05 | หุบเขาโภครา (Pokhara Valley)
โภครา (Pokhara)
“เมืองโภครา” นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบเดินทางโดยรถมากกว่าทางเครื่องบิน ด้วยระหว่างทางท่านจะได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามและวิถีชีวิตของชาวชนบทในประเทศเนปาลเส้นทางสายนี้มีชื่อเสียงมากในด้านความงดงามทางธรรมชาติ “หุบเขาโภครา” สูงกว่า ระดับน้ำทะเล 900 เมตร และโอบล้อมไปด้วยทิวเขาและป่าที่เขียวขจีเป็นทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด โดยมีไฮไลท์คือ เทือกเขาอานาปุระ (Annapurna) และยอดเขาหางปลามัจฉาปูร์ชเร (Machhapuchhre) ที่สูงตระหง่านเสียดฟ้ากว่า 8,000 เมตรอย่างสวยงาม
06 | ทะเลสาบเฟวา (Phewa Lake)
โภครา (Pokhara)
ล่องเรือพายในทะเลสาบเฟวา (Phewa Lake) ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ความสวยงามอยู่ที่ภาพในทะเลสาบสะท้อนภาพยอดเขามัจฉาปูชเรที่มีรูปร่างคล้ายหางปลา (Machhapuchhre) อย่างสวยงาม ตรงกลางทะเลสาบจะเป็นที่ตั้งของวัดบาลาฮี (Barahi Temple) วัดนี้เป็นวัดฮินดูที่สร้างถวายเจ้าแม่ Ajima ที่เป็นเทพเจ้าคอยปกป้องเหล่าปีศาจร้าย เป็นสถานที่ที่คุณพลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองโพคราด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและเงียบสงบ
07 | น้ำตกเดวิด (Davi’s fall)
โภครา (Pokhara)
“น้ำตกเดวิด” เป็นน้ำตกนี้ถูกตั้งชื่อตามนายเดวิทที่มาเสียชีวิตพร้อมคู่รัก ณ ที่แห่งนี้ น้ำตกแห่งนี้สวยแปลกตากว่าที่อื่นตรงที่ต้องชโงกหน้าก้มลงไปดู เพราะน้ำตกที่ทิ้งตัวลงจากลำธารลงสูช่องเขาเบื้องล่างลึกลงไปกว่า 100 เมตร นับว่าเป็นน้ำตกที่มีความลึกที่สุด
8 | ซางรางก๊อต (Sarangkot)
โภครา (Pokhara)
ซางรางก๊อต (Sarangkot) จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น โดยแสงอาทิตจะตัดกับยอดเขาต่างๆ ของเทือกเขาหิมาลัยอรรณาปุรณะ ณ จุดนี้ท่านจะได้เห็น 1 ใน 10 ของโลก ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ความสวยงามอยู่ที่เทือกเขาหิมาลัยและแม่น้ำเซติเป็นฉากอยู่ด้านล่าง สวยงามราวกับภาพวาด
9 | วัดบินดาบาซินี (Bindhabasani)
โภครา (Pokhara)
วัดบินดาบาซินี (Bindhabasani) วัดฮินดู วัดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพธิดา “บาวานี” วัดนี้ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในเมืองโภครา เป็นวัดที่ชาวเมืองหรือต่างเมืองนิยมมาแต่งงาน และมาสักการะบูชาเทพธิดา “บาวานี” โดยนิยมถวายเครื่องถาด จะประกอบไปด้วย มะพร้าว แทนสัญลักษณ์สัตว์หนึ่งชีวิตใช้บูชายัน ดอกไม้ ผงติกะ ขนม และเฉพาะในวันอังคารและวันเสาร์จะมีพิธีสำคัญใหญ่ๆมีการบูชายันด้วยสัตว์เล็กและใหญ่ตลอดทั้งวัน
10 | แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์เซติ (Seti River)
โภครา (Pokhara)
แม่น้ำแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อนึงว่า “แม่น้ำนม” โดยเป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำกังฮารา หรือ แม่น้ำการ์นารี ซึ่งเป็นน้ำที่ละลายจากหิมะบนยอดเขาอภิหรือนามปาในเทือกเขาหิมาลัย โดยที่เรียกว่าแม่น้ำนมเพราะ มีสีขาวคล้ายน้ำนมนั่นเอง
11 | จัตุรัสภักตะปุร์ ดูร์บาร์ (Bhaktapur Durbar Square)
ภัคตะปูร์ (Bhaktapur)
จัตุรัสแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองบักตะปูร์ เนื่องจากบริเวณจัตุรัสนั้นเป็นที่ตั้งของอาคารและสิ่งก่อสร้างที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม รวมไปถึงสถานที่สาคัญๆมากมาย ในอดีตเคยเป็นราชธานีในหุบเขา เป็นเมืองที่เจริญบนเส้นทางการค้าสู่ธิเบต
12 | วัดเนียตา โปลา (Nyatapola)
ภัคตะปูร์ (Bhaktapur)
วัดแห่งนี้เป็นศาสนสถานที่สูงที่สุดในเนปาล มีด้วยกัน 5 ชั้น สูง 98 ฟุต สองข้างบันไดทางขึ้นมีรูปปั้นหินขนาดใหญ่แกะสลักเป็นรูปสัตว์ และเทพอารักขา เชื่อกันว่ารูปปั้นแต่ละคู่มีอานาจหยุดสิ่งชั่วร้ายที่เข้ามารุกรานวัดนี้ สร้างขึ้นถวายแด่เทพแห่งเนียตะโปลา ผู้ที่มีพลังสูงสุดหรือสิทธิลักษมี (Siddhi Lakshmi) ซึ่งเป็นเทวีลัทธิตันตระ โดยพระเจ้าภูปฏินทรา มัลละ เป็นผู้สร้างวัดนี้ในปี ค.ศ. 1702
13 | เทือกเขานากาก๊อต
นากาก็อต (Nagarkot)
เทือกเขานากาก็อต จากทิวทัศน์ทิศตะวันออกของหุบเขาจะสามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้โดยรอบ ซึ่งที่นี่สามารถชมยอดเขา 5 ยอด จากจำนวน 10 ยอดที่สูงที่สุดในโลก ได้แก่ ยอดเขาเอเวอร์เลส (Everest), โลดเส (Lhotse), โชยู (Cho Yu), มาคารา (Makala), มานาสรู (Mamaslu) และยังเป็นเมืองตากอากาศของชาวเนปาล นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาพักผ่อนและชมพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น ความสวยงามอยู่ที่แสงของพระอาทิตย์สาดส่องตัดกับหิมะสีขาวที่ปกคลุมตามยอดเขาอย่างสวยงาม
14 | จัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ (Patan Durbar Square)
ปะฏัน (Patan)
เมืองที่ได้สมญานามว่า “นครแห่งความสวยงาม” เป็นเมืองที่มีศิลปะอันวิจิตรงดงาม ที่สำคัญเป็น 1 ใน 4 เมือง ที่มีความสวยงามด้วยปติมากรรมของช่างฝีมือชาวเนปาล ที่ประกอบไปด้วยพระราชวังน้อยใหญ่ เป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ช่วงศตวรรษที่ 3 โดยถูกขนานนามว่าเป็นเมืองคู่แฝดของเมืองกาฐมาณฑุ (City of Beauty) มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจได้แก่ พระราชวัง (Patan Palace), วัดพระกฤษณะ มัณฑีร์ (Krishna Mandir) วัดทอง (Golden Temple)
15 | วัดปศุปฏินารถ (Pashupatinath Temple)
กาฐมาณฑุ (Kathmandu)
วัดนี้จุดเด่นอยู่ที่หลังคาทำด้วยทองซ้อนกัน 2 ชั้น ซึ่งถือเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดวัดหนึ่งในศาสนาฮินดูของเนปาล โดยวัดนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองการยูเนสโกในปี พ.ศ. 2522 เป็นวัดที่มีความสำคัญในช่วงเทศกาลศิวะราตรี วัดนี้ให้เข้าไปภายในวัดได้เฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามภายในวัดได้จากอีกฝั่งด้านตะวันออกของแม่น้ำพัคมาตี
16 | สถูปโพธินาถ หรือพุทธนาถ (Boudhanath)
กาฐมาณฑุ (Kathmandu)
มหาเจดีย์โพธิ์นาถ หรือพุทธนาถ (Boudhanath) เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล บนเจดีย์มีดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจ้า (Wisdom Eyes) ทั้งสี่ทิศ บริเวณรอบวัดเป็นแหล่งชุมชนของชาวพุทธมหายานจากทิเบตที่อพยพเข้ามาเมื่อปีพ.ศ. 2502 จึงจะเห็นพระทิเบตและคนทั่วไปยืนแกว่งล้อมนต์พร้อมกับสวดมนต์อยู่ทั่วไป องค์การยูเนสโกขึ้นได้ทะเบียนสถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ.2522
เที่ยวเนปาล ทัวร์เนปาล แพ็กเกจเนปาล เพียงคลิก >>https://bit.ly/2xIk3Ki<<
สนใจทัวร์ต่างประเทศอื่นๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ 02-0960080 ถึง 1
ทุกการเดินทางของคุณให้เราดูแล ชอบบทความอย่าลืมแชร์กับเพื่อนๆนะครับ
Comments